โรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ ที่ไม่ใช่ผู้สูงอายุก็เป็นได้
รู้หรือไม่!? โรคข้อเข่าเสื่อมไม่ได้เป็นแค่ในผู้สูงอายุ
ใครเคยได้ยินแบบนี้บ้าง “โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดกับผู้สูงอายุ” แต่จริง ๆ มันไม่ใช่ ที่เราเข้าใจผิดแบบนั้น เพราะเราได้ยินเสียงผู้สูงอายุ ร้องปวดขา ปวดเข่า เวลาลุก นั่ง หรือเดินอยู่เป็นประจำ แต่จริง ๆ แล้ว ข้อเข่าเสื่อมสามารถเกิดขึ้นได้กับวัยอื่น ๆ ด้วย เพราะสิ่งที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อม นอกจากกาลเวลาแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกด้วย
อาการข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูก ทำให้การทำงานของกระดูกข้อต่อ หรือบริเวณใกล้เคียงเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ไม่สามารถกลับมาสู่สภาพเดิมได้ และในอนาคตอาจเกิดความรุนแรงได้ อาการข้อเข่าเสื่อมส่วนใหญ่มักจะพบกับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันวัยทำงานก็สามารถเป็นข้อเข่าเสื่อมได้ เนื่องจากอายุที่มากขึ้นจนเกิดอาการเสื่อมสภาพของกระดูก การใช้งานเข่าเป็นจำนวนมากในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ การคุกเข่า น้ำหนักตัวที่มากเกินไป การขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ หรือแม้กระทั่งโรคประจำตัวบางโรค ก็สามารถทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ หากไม่รีบทำการรักษา หรือชะลออาการเสื่อม อาจทำให้อาการข้อเข่าเสื่อมมีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลในการใช้ชีวิตประจำวัน
สัญญาณเตือนข้อเข่าเสื่อม
• มีเสียงในเข่า
• งอเข่าได้ไม่สุด
• ปวดภายในข้อเข่า
• เข่าฝืดแข็ง ทำให้เหยียดขา หรืองอเข่าลำบาก
• เมื่อเคลื่อนไหวจะเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณรอบหัวเข่า
• เวลาเดิน นั่ง ลุก หรือลงบันได มีอาการปวด หรือเจ็บแปล็บ ๆ
สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม
• คนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป มักจะมีเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
• มีความผิดปกติของข้อเข่า ข้อเข่าผิดรูป เข่าชนกัน และขาโก่ง
• มีน้ำหนักตัวมากเกินไป
• มีอาการบวมที่บริเวณข้อเข่า
• การใช้ข้อเข่า และงอเข่ามากเกินไปจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งขัดสมาธิ การคุกเข่า การนั่งยอง ๆ และการนั่งพับเพียบ เป็นเวลานาน
• มีประวัติการเกิดอุบัติเหตุบริเวณข้อเข่า ซึ่งอาจเกิดจากการออกกำลังกาย ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงจากการเกิดข้อเข่าเสื่อม
• กรรมพันธุ์ หรือผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม
• มีประวัติการติดเชื้อในข้อเข่า หรือโรคอักเสบต่าง ๆ อาทิเช่น โรคอักเสบรูมาตอยด์ โรคเก๊าท์
วิธีการชะลอการเสื่อมของข้อเข่า
• หากน้ำหนักตัวมากเกินไป ให้ลดน้ำหนักเพื่อลดแรงกดของเข่า
• ประคบอุ่น เพื่อลดอาการปวด
• ลดการงอเข่าที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งยอง ๆ คุกเข่า นาน ๆ รวมถึงการเดินขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ ด้วย
• ออกกำลังกายกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า
• หากมีอาการปวดข้อเข่ามากให้ใส่สนับเข่า
• หากปวดข้อเข่าข้างเดียวให้ใช้ไม้ช่วยพยุง หากปวดข้างซ้ายให้ถือไม้เท้าขวา ถ้าปวดข้างขวาให้ถือไม้เท้าด้านซ้าย
• หากเกิดอาการปวดเป็นระยะเวลามากกว่า 1 – 2 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์ เพื่อไปทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ เพื่อทำการรักษาได้อย่างเหมาะสม
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
• รักษาโดยการใช้ยา
- ฉีดยาสเตียรอยด์
การฉีดยาสเตียรอยด์ เป็นวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมที่มักจะใช้ในผู้ป่วยที่ข้อเข่ามีอาการอักเสบแบบเฉียบพลัน หรือผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการทานยา โดยยาสเตียรอยด์นั้นจะช่วยลดอาการอักเสบ บวม และแดงได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่าฤทธิ์ยาจะอยู่ได้ในระยะสั้น ดังนั้น การฉีดยาสเตียรอยด์จึงเลือกใช้ในกรณีที่จำเป็น หรือตามดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น
- ฉีดน้ำหล่อเลี้ยงข้อเทียม
การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงข้อเทียม เป็นวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมที่ใช้ในผู้ป่วยที่อยู่ในระยะแรกจนถึงปานกลาง โดยการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงข้อเทียมนั้นสามารถช่วยลดอาการปวดของผู้ป่วยได้ เพราะว่าน้ำหล่อเลี้ยงข้อเทียมจะช่วยเพิ่มความหล่อลื่นให้กับข้อเข่า และช่วยลดแรงกระแทกบริเวณข้อเข่าได้ในบางส่วน ซึ่งน้ำหล่อเลี้ยงข้อเทียมจะออกฤทธิ์ เพื่อช่วยลดอาการปวดช้ากว่ายาสเตียรอยด์ แต่ว่าสามารถช่วยลดอาการปวดได้นานกว่า
- ฉีด PRP (Platelet Rich Plasma)
การฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) หรือที่หลาย ๆ คนอาจจะเรียกว่าการฉีดเกล็ดเลือด เป็นวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการนำเลือดของผู้ที่รับการรักษามาปั่น เพื่อแยกเกล็ดเลือด และสารช่วยสร้างเนื้อเยื่อ หลังจากนั้นจะนำเกล็ดเลือดเข้มข้นที่ได้ไปฉีดในส่วนข้อที่มีปัญหา ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ และช่วยให้บริเวณที่บาดเจ็บมีอาการดีขึ้น แถมยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และผลข้างเคียงต่ำอีกด้วย
- การทำกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัด เป็นวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการเน้นไปที่การบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และต้นขาด้านหลัง เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพยุง พร้อมกับรับน้ำหนักของตัวเองได้มากขึ้น และช่วยแบ่งเบาน้ำหนักที่ถ่ายลงมายังข้อเข่าได้มากขึ้น ซึ่งสามารถเสริมสร้าง และฟื้นฟูกล้ามเนื้อหัวเข่าให้แข็งแรงมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการปวดหัวเข่าให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมยังช่วยป้องกันอาการปวดเข่าในระยะยาวได้อีกด้วย
- การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เป็นวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมที่ช่วยลดอาการปวดข้อได้ดีที่สุด เพราะว่าเป็นการผ่าตัดที่ใส่ข้อเข่าเทียมครอบข้อเข่าเดิมที่มีการเสื่อมสภาพและสึกหรอ ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีเทคโนโลยีในการผ่าเข่าที่ก้าวหน้า ส่งผลให้แผลของผู้ป่วยนั้นมีขนาดเล็ก ใช้เวลาในการผ่าเข่าสั้นลง และไม่ต้องพักฟื้นนาน จึงทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกถึงอาการปวดข้อเข่าที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แถมยังสามารถใช้งานข้อเข่าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
(ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสินแพทย์)
โรคข้อเข่าเสื่อมอาจจะเป็นโรคที่หลายคนไม่ให้ความสำคัญมากนัก เพราะอาจเกิดจากความเข้าใจผิดจากการปวดเข่าจากการเมื่อยล้าธรรมดา ซึ่งหากปล่อยไว้นานเข้า อาจจะส่งผลรุ่นแรง และส่งผลในการใช้ชีวิต ดังนั้น ควรรีบสังเหตุอาการ และรักษาให้ถูกต้อง และเหมาะสมให้ไวที่สุด นอกจากการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุแล้ว คนในวัยทำงาน หรือวัยอื่น ๆ ก็ควรสังเกตอาการ และทำการรักษาเช่นกัน เพราะโรคข้อเข่าเสื่อมไม่ใช่ได้เกิดขึ้นแค่ในผู้สูงอายุ แต่เกิดขึ้นได้ทุกวัย
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
สาขา รพ.ประสานมิตร ถนนพหลโยธิน (รับเฉพาะผู้ป่วยนอก)
โทร : 081-632-8188 / 083-441-1363
LINE สอบถามรายละเอียด @KinPrasanmit (มี @ ข้างหน้า) หรือ Click : https://lin.ee/UPfzPk7