ปัจจัยเสี่ยง และการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

มีหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่:

 

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองสามารถทำได้โดยการปรับปรุงวิถีชีวิต

และการดูแลสุขภาพ ได้แก่

• การควบคุมความดันโลหิต: โดยการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งและการติดตามผลการวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ
• การเลิกสูบบุหรี่: ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคอื่นๆ
• การรักษาเบาหวานและคอเลสเตอรอล: โดยการรับประทานยาและการปรับปรุงอาหาร
• การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดและลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
• การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เช่น การบริโภคผักและผลไม้ ลดการบริโภคเกลือและไขมันอิ่มตัว

 

การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีโอกาสเกิดโรคซ้ำได้สูงกว่าปกติ การป้องกัน และลดความเสี่ยงที่จะเกิดซ้ำสามารถทำได้โดย:

        1.การลดความเสี่ยง และป้องกันการเกิดซ้ำ

          - การออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

          -การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง: เช่น เนื้อสัตว์, ไข่แดง, หมูติดมัน, เบคอน, ไส้กรอก, กุนเชียง, น้ำมันจากสัตว์, และเนย

        2.การดื่มน้ำให้เพียงพอ: ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

        3.การควบคุมความดันโลหิต: พยายามควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ

        4.การฟื้นฟูด้วยกายภาพบำบัด

        การฟื้นฟูผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก หรือโรคหลอดเลือดสมองด้วยกายภาพบำบัดเป็นกระบวนการที่สำคัญ เพื่อฟื้นฟูผู้ป่วยที่มี

        อาการบกพร่องหรือพิการต่างๆ โดยการบำบัดและฝึกฝนฟื้นฟูจะรวมถึง:

          - การเดิน

          - การทรงตัว

          - การเคลื่อนไหวร่างกาย

          - การพูด

          - การสื่อสาร

          - การฟัง

          - การกลืนอาหาร

        การดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วยอย่างถูกต้องและต่อเนื่องโดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิต

        ประจำวันได้ตามปกติอย่างมีคุณภาพ

        5.เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (Transcranial Magnetic Stimulation หรือ TMS)

        แม้ว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) จะได้รับการรักษาด้วยวิธีการทางการแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว แต่ยังมีผู้ป่วยบางส่วน

        ที่ยังคงมีปัญหาด้านการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนขา และการเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือตัวเอง และ

        การประกอบกิจวัตรประจำวัน จากการศึกษาพบว่าหลังจากการกายภาพบำบัดฟื้นฟูแล้ว 6 เดือน ยังมีผู้ป่วยประมาณ 30% ที่ยัง

        ไม่สามารถเดินเองได้

        เทคโนโลยีที่ช่วยในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทั้งชนิดหลอดเลือดสมองตีบ และแตก คือ เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า

        สมอง (Transcranial Magnetic Stimulation: TMS) ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วยังมีอาการอ่อนแรงหรือการเกร็งของกล้าม

        เนื้อ การบำบัดด้วย TMS เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟู และลดอาการเกร็งของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองได้

        วิธีการทำ TMS คือการนำหัวส่งสัญญาณแม่เหล็กมาวางที่ศีรษะหรือแขนขา ขณะทำผู้ป่วยอาจพบการกระตุกของกล้ามเนื้อบ้าง

        แต่ไม่สร้างความเจ็บปวด และไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

        หลักการทำงานของเครื่อง TMS คือการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นสมองจากภายนอก โดยสามารถกระตุ้นสมองข้างที่มี

        ปัญหาหรือยับยั้งสมองข้างตรงข้ามเพื่อปรับสมดุลการทำงานของสมอง การกระตุ้นดังกล่าวจะเร่งการเชื่อมต่อใหม่ของเซลล์

        ประสาท ทำให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อดีขึ้น และยังสามารถกระตุ้นกล้ามเนื้อที่แขนขาเพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย

        TMS เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ด้วยวิธีที่ไม่เจ็บปวด และไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ผู้

        ป่วยสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย